หน้าเว็บ

26 พฤศจิกายน 2554

EM Ball คืออะไร ใช้อย่างไร เก็บอย่างไร ทำอย่างไร?



เป็นที่ทราบกันดีว่าตอนนี้ในหลาย ๆ พื้นที่นั้นได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 2554 ครั้งนี้กันหลายพื้นที่ ซึ่งส่งผลให้ต้องมีการอพยพผู้คนหลายพัน หลายหมื่นคน แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่แม้ว่าน้ำจะท่วมแค่ไหนก็ขอปักหลักอยู่กับบ้าน หรือในหลาย ๆ พื้นที่น้ำอาจจะไม่ท่วมสูงมากนัก แต่ก็เจอปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งเมื่อนานวันเข้าก็ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำเน่าเสีย
ดังนั้นจึงมีการเร่งทำ ก้อนจุลินทรีย์ เพื่อแจกจ่ายตามพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยในเรื่องของการบำบัดน้ำเน่าเสีย วันนี้ 88DB.com เลยขอหยิบเอาเรื่อง EM ball มาพูดถึงเพื่อให้หลาย ๆ คนเข้าใจกันมากขึ้นว่า EM ball คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร พร้อมกับวิธีการทำใช้เองง่าย ๆ มาฝากครับ
EM ย่อมาจากคำว่า Effective Microorganisms ซึ่งมีความหมายว่า กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ มีลักษณะเป็นของเหลว สีน้ำตาล กลิ่นหวานอมเปรี้ยว เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีชีวิต ไม่สามารถใช้ร่วมกับสารเคมีหรือ ยาปฏิชีวนะและยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต เช่น คน สัตว์ พืช และแมลงที่เป็นประโยชน์ ช่วยปรับสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ ที่ทุกคนสามารถนำไปเพาะขยายเพื่อช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง

คุณสมบัติบางประการและการเก็บรักษา

1. EM เป็นสิ่งมีชีวิต ต้องเก็บไว้ในที่ร่ม อุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ประมาณ 20 – 45 องศาเซลเซียส หากไม่ได้เปิดใช้เก็บไว้ได้นาน 1 ปี
2. EM ไม่ใช่ปุ๋ย แต่เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่อยู่ในสภาพพัก การนำไปใช้หากเปิดใช้แล้วให้รีบปิด เก็บไว้ได้นาน 6 เดือน

จุลินทรีย์ใน EM คืออะไร

คำว่า จุลินทรีย์หรือแบคทีเรีย บางคนอาจเข้าใจว่าเป็นเชื้อโรคที่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตามจุลินทรีย์ที่ใช้ในการผลิต EM (จุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติก ยีสต์ และจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง) ผลิตจากจุลินทรีย์ธรรมชาติ ไม่มีจุลินทรีย์ก่อโรค ไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ และไม่ใช่การตัดต่อยีนส์ (GMOs) ซึ่งเป็นโทษต่อมนุษย์ สัตว์และพืช EM ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่ปลอดภัยซึ่งใช้กันมาก่อนในสมัยโบราณจะโดยตั้งใจหรือ ไม่ตั้งใจก็ตาม จุลินทรีย์ใน EM มี 3 กลุ่ม ดังต่อไปนี้

1. จุลินทรีย์ผลิตกรดแลกติก

เป็นจุลินทรีย์ที่จัดอยู่ในพวกแบคทีเรียที่สามารถเปลี่ยน น้ำตาลให้เป็นกรดแลคติกได้โดยผ่านกระบวนการหมัก ซึ่งกรดแลกติกสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรคบางชนิด และจุลินทรีย์อื่น ๆ ได้ เนื่องจากมี pH ที่ต่ำ เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่ามีการนำเอาจุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติกไปใช้ใน การหมักอาหารหลายชนิด เช่น เนยแข็ง โยเกิร์ต และสามารถเก็บไว้ได้นาน ตั้งแต่หลุยส์ ปาสเตอร์ ได้ค้นพบจุลินทรีย์ผลิตกรดแลคติกในปี พ.ศ.2400 ทำให้รู้ถึงประโยชน์ของมันที่เกี่ยวกับสุขภาพและการมีอายุยืนยาว เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีงานวิจัยที่พบว่า นอกจากมันจะอยู่ที่ลำไส้เล็กของคนแล้วมันยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภูมิต้าน ทาน มีคุณสมบัติในการต่อต้านการสูญเสียโปรตีนในเลือด ต่อต้านการกลายพันธ์ โคเลสเตอรอลในเลือดต่ำ และการมีความดันโลหิตต่ำ
2. ยีสต์

เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวตั้งต้นในการหมัก ยีสต์เป็นจุลินทรีย์ที่ใช้ในการหมักเบียร์หรือแอลกอฮอล์ และใช้ในการทำขนมปัง ยีสต์ค้นพบโดยพ่อค้าชาวดัทช์ ชื่อ แอนโทนี แวน ลีเวนฮุค (ในปี พ.ศ.2175 -2266) ซึ่งเป็นผู้ค้นพบเป็นคนแรกในโลกเรื่องจุลินทรีย์ ยีสต์ถูกจำแนกเป็นสัตว์เซลเดียว ซึ่งแตกต่างจากเชื้อราเพราะมันจะอยู่เป็นเซลเดียวไปตลอดชีวิต ในโลกของจุลินทรีย์จะมีกลุ่มจุลินทรีย์กลุ่มเล็ก ๆ ที่มีความจำเป็นต่อชีวิตมนุษย์ ยีสต์จะมีอยู่มากในสิ่งแวดล้อมที่มีน้ำตาลมาก เช่น น้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ตามผิวของผลไม้ ใน EM ยีสต์ผลิตจะสารชีวพันธ์ต่าง ๆ หรือสารที่จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต เช่น กรดอะมิโน และแป้ง
3. จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

โฟโต้ทรอปฟิคแบคทีเรีย (เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง) เป็นแบคทีเรียโบราณที่เกิดมาก่อนการเกิดดาวเคราะห์โลกที่มีออกซิเจนหนา แน่นอย่างเช่นในปัจจุบัน จากชื่อของมันบ่งบอกให้รู้ว่ามันใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในการย่อยสลายสาร อินทรีย์และอนินทรีย์ จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงมีอยู่ตามนาข้าว ทะเลสาบ และทุกหนทุกแห่งบนโลกนี้ ในทางปฏิบัติจะพบจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพนี้ตามทุ่งนาเพราะมันย่อยสลาย อินทรียวัตถุได้ดี ทั้งในการบำบัดน้ำเสียมีงานวิจัยที่รายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ จุลินทรีย์นี้ ส่วนที่ใช้ในการเกษตร การเลี้ยงสัตว์น้ำ และการเลี้ยงสัตว์ทั่วไป ภายใต้สภาพที่มีการผลิตไฮโดรเจนมันสามารถย่อยสลายสารต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงร่วมอยู่ในระบบย่อยต่าง ๆ และเป็นจุลินทรีย์หลักในวัฏจักรไนโตรเจนและวัฏจักรคาร์บอน เนื่องจากเป็นจุลินทรีย์หลักในวัฏจักรต่าง ๆ มันจึงทำงานร่วมกับจุลินทรีย์ใน EM ได้ ดังนั้นจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจึงเป็นจุลินทรีย์ที่สำคัญใน EM





วิธีทำจุลินทรีย์บอล (EM ball)

เพื่อการบำบัดน้ำเสียในแหล่งน้ำที่มีโคลนตะกอน หรือน้ำไหล หรือน้ำลึก ให้ได้ผลดีกว่าการใช้ EM ขยาย หรือจะใช้ทั้ง EM ball และ EM ขยาย ร่วมกันก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น

ส่วนผสมส่วนที่ 1

1. รำละเอียด 1 ส่วน
2. แกลบป่น หรือ รำหยาบ 1 ส่วน
3. ดินทราย 1 ส่วน

* ใช้ โบกาฉิ แทนส่วนที่ 1 หรือใช้โคลนตะกอน แทนดินทรายได้

ส่วนผสมส่วนที่ 2

1. EM 10 ช้อนแกง
2. กากน้ำตาล 10 ช้อนแกง
3. น้ำสะอาด 10 ลิตร

* ใช้ EM ขยาย หรือ EM หมักน้ำซาวข้าว หรือ EM5 ผสมร่วมกันหรือใช้แทน EM กับกากน้ำตาลได้

วิธีทำ

1. ผสมส่วนที่ 1 แล้วรดด้วยส่วนที่ 2 คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2. วัดความชื้นพอเหมาะ ปั้นเป็นก้อนกลม หรือดัดแปรงได้ตามต้องการ
3. นำไปวางไว้ในที่ร่มจนแห้งสนิท แล้วนำไปใช้

ที่มา : www.emro-asia.com

25 พฤศจิกายน 2554

เตือน"บารากู่"พิษร้าย รุนแรงกว่าบุหรี่ถึง 6 เท่า

เตือน"บารากู่"พิษร้าย รุนแรงกว่าบุหรี่ถึง 6 เท่า



น.ส.ศรีรัช ลาภใหญ่ อาจารย์ประจำสาขาสื่อสารการตลาด คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
กล่าวถึงการศึกษากลยุทธ์การตลาดของยาสูบประเภท “บารากู่” และพฤติกรรมการบริโภคบารากู่
ในกลุ่มเยาวชน โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) ว่า ได้ทำการศึกษาพฤติกรรมกลุ่มตัวอย่างระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย-อุดมศึกษา
จำนวน 783 ราย พบว่า เยาวชนร้อยละ 81 รู้จักว่าบารากู่ คืออะไร โดยร้อยละ 34 สูบบารากู่
เป็นประจำและเป็นผู้ที่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เยาวชนร้อยละ 57 รู้จักบารากู่จากร้านสุรา สอดคล้อง
กับผลการสำรวจที่ชี้ว่า สถานที่ที่วัยรุ่นนิยมสูบบารากู่มากที่สุดคือ ร้านเหล้า รองลงมา คือ
ร้านเหล้าปั่น และหอพัก นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามมีการสูบบารากู่
เช่นกัน และเริ่มสูบตั้งแต่อายุยังน้อยคือ พบว่า เริ่มที่อายุ 12 ปี เยาวชนมุสลิมมีอัตราการสูบ
บารากู่มากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งต้องเร่งทำความเข้าใจถึงอันตรายต่อไปกับกลุ่มเสี่ยงนี้

"พบว่าบารากู่ และบุหรี่ปรุงรส หาซื้อได้ง่าย แม้แต่เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่กฎหมายห้าม
จำหน่าย กว่าครึ่งหนึ่งยังสามารถซื้อได้ โดยร้อยละ 90 ยอมรับว่าบารากู่เป็นสารที่วัยรุ่นชอบลอง
มีเพื่อนเป็นผู้ชักชวน โดยเฉลี่ยวัยรุ่นที่สูบบารากู่จะสูบสัปดาห์ละครั้ง มีร้อยละ 32.3 ที่มีอุปกรณ์
ประกอบการสูบเป็นของตนเอง สามารถหาซื้ออุปกรณ์ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นในตลาดนัดกลางคืน
แหล่ง ช้อปปิ้งชื่อดังหลายแห่ง แผงลอย ร้านตามตลาดนัดสุดสัปดาห์ ร้านขายส่ง และอินเตอร์เน็ต
ที่น่าเป็นห่วงคือ หอพักที่อยู่ใกล้สถานศึกษา จะมีบริการส่งชุดสูบบารากู่ถึงห้องพัก และยังพบว่า
การขายเตาบารากู่ได้ระบาดไปถึงในห้างสรรพสินค้าประเภทดิสเคาน์สโตร์ที่เปิดแผงลอยให้ผู้ค้า
ภายนอกเข้ามาทำการค้าด้วย" น.ส.ศรีรัช กล่าว

น.ส.ศรีรัช กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบารากู่ เพราะกลุ่มตัวอย่างร้อยละ
47 เห็นว่าการสูบบารากู่นั้นจะไม่ทำให้เสพติด กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 62 เชื่อว่าการสูบทำให้เกิด
ความสุข ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 44 เชื่อว่าบารากู่เป็นสมุนไพร กลุ่มตัวอย่าง
ร้อยละ 56 เชื่อว่ามีพิษน้อยมากหากเทียบกับบุหรี่ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 66 เชื่อว่า บารากู่ เป็น
วัฒนธรรมอาหรับเก่าแก่ที่ไม่มีอันตราย ที่สำคัญ คือ ผู้หญิง จะมีทัศนคติด้านบวกและไม่กลัวที่
จะลองสูบ เนื่องจากมีรสผลไม้ กลิ่นหอม รสหวาน และเชื่อว่าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ รวมทั้งผู้หญิง
เชื่อว่าการสูบบารากู่จะทำให้ผู้หญิงมีภาพลักษณ์ดีกว่าผู้หญิงสูบบุหรี่ ซึ่งถือเป็นความเข้าใจผิด
เพราะยาสูบบารากู่มีพิษภัยกว่าบุหรี่ถึง 6 เท่า หากสูบทุกวันจะเท่ากับสูบบุหรี่วันละ 10 มวน หาก
สูบเป็นครั้งคราวจะเท่ากับสูบครั้งละ 2 มวน ซึ่งบารากู่ คือ ยาสูบชนิดหนึ่งซึ่งทำให้เกิดการเสพติดได้

น.ส.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.)
กล่าวว่า บารากู่ ถือเป็นยาสูบที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ แต่ยังไม่
มีการควบคุมการขาย ยาสูบ เครื่องสูบ ประเภทดังกล่าว ทำให้มีการขายอย่างเสรีในหลายที่
รวมทั้งผับ บาร์ ที่ยังลักลอบจำหน่าย

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

บารากู่ คืออะไร?

บารากู่ หมายถึง ยาสูบที่นำมาใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้เสพที่มีชื่อเรียกว่า ฮุคคา hookah อุปกรณ์นี้มีชื่อเรียกที่ต่างกันหลายภาษาเช่น water pipe , narghile,shisha, hubble-bubble เป้นต้น ประเทศไทยเรียกว่าเตาบารากู่ การสูบยาสูบโดยใช้อุปกรณ์นี้เป็นวัฒนธรรมแถบตะวันออกกลางมานานแล้ว ซึ่งปัจจุบันนี้จะพบในโลกตะวันออกกลางแล้วยังพบในประเทศตะวันตกด้วย

สารที่นำมาใช้กับอุปกรณ์ฮุคคาไม่จำเป็นต้องแห้งสนิท ที่มักใช้กันก็มีชื่อว่า โทบาเมล หรือ มาแอสเซล ซึ่งประเทศไทยรู้จักในนามชื่อว่า บารากู่ เป็นส่วนผสมของใบยาสูบ (tobacco) กับสารที่มีความหวาน เช่น น้ำผึ้งหรือกากน้ำตาล (molasses) หรือผลไม้ตากแห้ง


วัฒนธรรมบารากู่
ในแถบตะวันออกกลางและตุรกี สามารถพบได้ในร้านอาหารและ ภัตตาคารทั่วไป ใช้สูบหลังอาหารแทนบุหรี่ บางแห่งสูบกันในแหล่งที่ใช้เป็นที่สังสรรค์ ดูรายการยอดนิยม หรือดูกีฬาระดับชาติร่วมกัน เมื่อไม่นานมานี้หลายรัฐในอเมริกาและแคนาดา ได้ห้ามการสูบในที่สาธารณะ ที่สกอตแลนด์และอังกฤษก็ห้ามเช่นกัน ในขณะเดียวกันก็เริ่มเป็นที่นิยมในบางแห่ง เช่น สเปนและรัสเซีย

ในเอเชียโดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เริ่มรู้จักกันมากขึ้น เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นในปากีสถานและอัฟกานิสถาน ที่อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปปิ้นส์ ก็มีความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนในประเทศไทยบารากู่พบแพร่หลายในสถานที่เที่ยวทั่วไป แม่ว่าตั้งแต่เริ่มมีข่าวเรื่องวัยรุ่นกับการใช้บารากู่ตั้งแต่ปี 2546 กระทรวงสาธารณสขได้ทำเรื่องเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาประการศห้ามจำหน่ายและนำเข้าผลิตภัณฑ์นี้และได้รับการตอบรับแล้วก็ตาม

เคยเห็นคลิปใน youtobe ของคนไทย ให้เด็กเล็กสูบโชว์ด้วยส่วนตัวคิดว่าไม่สมควรเลยน่ะครับ ...


อันตรายของบารากู่
มีงานศึกษาเกี่ยวกับการใช้ฮุคคานั้น ถ้าใช้เวลาสูบนาน 45 นาที จะได้รับสารทาร์เป็น 36 เท่า คาร์บอนมอนนอกไซด์เป็น 15 เท่า และนิโคตินเป็น 70เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้บุหรี่ 9 มวน(ซึ่งคำนวณว่า 1 มวนใช้เวลา 5 นาที) และอีกการศึกษาหนึ่งพบว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่สูบยาแล้ว มีโอกาสเป้นโรคเหงือกมากกว่าถึง 5 เท่า
(ข้อมูลจากกองควบคุมวัตถุเสพติด พ.ย.2549)

ที่มา: http://www.buffetfamous.com/webboard/index.php?topic=32.0

20 พฤศจิกายน 2554

Xbox 720 เกมส์คอนโซลยุคใหม่ โดย Microsoft เตรียมเปิดตัว มกราคม 2012

คอเกมส์ทั้งหลาย เตรียมพบกับ Xbox 720 ว่าที่เครื่องเกมส์คอนโซลยุคใหม่จาก Microsoft ทายาทโดยตรงของ Xbox 360 รุ่นปัจจุบันมีโอกาสสูงทีเดียวที่จะได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปี 2012 ภายในงานมหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ CES 2012 ที่นครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกาที่จะจัดขึ้นในช่วงดังกล่าว ทั้งนี้นิตยสารเกมส์ Edge รายงานว่าแหล่งข่าวภายในบริษัท Ubisoft Montreal (ผู้พัฒนาเกมส์ Assassins Creed Revelations) ระบุว่าทางบริษัทอยู่ในระหว่างการพัฒนาการพัฒนาเกมส์ให้กับเครื่องเกมส์คอนโซลรุ่นใหม่ต่อจาก Xbox 360 อยู่ในเวลานี้ นอกจากนี้ทีมงานของ Ubisoft คนดังกล่าวยังเปิดเผยด้วยว่าพวกเขาได้เริ่มต้นการพัฒนาเกมส์ให้กับเครื่องเกมส์คอนโซลจากฝั่ง Sony ซึ่งจะใช้ชื่อว่า PlayStation 4 แล้วเช่นเดียวกันสำหรับ Xbox 720 นั้นยังมีรายละเอียดเข้ามาด้วยว่าจะใช้งานชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆจาก Microsoft เป็นหลัก ทว่าในส่วนของหน่วยประมวลผลกราฟฟิกหรือ GPU ภายในเครื่อง Xbox 720 จะเป็นผลิตภัณฑ์จาก AMD แทน โดยตัวเครื่อง Xbox 720 ที่เสร็จสมบูรณ์จะพร้อมวางจำหน่ายให้นักเล่นเกมส์ตัวจริงได้สัมผัสกันภายในสิ้นปี 2012 ที่จะมาถึงเลยด้วย ที่มา : http://techxcite.com

3 พฤศจิกายน 2554

โป๊กเกอร์เกมไพ่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

        โป๊กเกอร์ (poker) เป็นเกมไพ่ที่มีผู้เล่นนิยมเล่นมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลก เนื่องจากความไม่ซับซ้อน และประกอบกับการที่ต้องใช้ความคิดในการประกอบการตัดสินใจ ดังนั้นจึงเกิดอาชีพนักเล่นโป๊กเกอร์มืออาชีพขึ้นในหลายประเทศในโซนยุโรป และอเมริกา รวมทั้งมีการจัดการแข่งขันเวิร์ลซีรียส์ (WSOP) ซึ่งผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นสร้อยข้อมือเวิร์ลซีรียส์ และเงินรางวัลกลับบ้านอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญ จึงสามารถกล่าวได้ว่าโป๊กเกอร์เป็นเกมที่อาศัยทั้งโชค ศาสตร์แห่งความน่าจะเป็น จิตวิทยา และความเชี่ยวชาญในการเล่นเพื่อที่จะได้กำไรในการเล่นก็ว่าได้ จึงเป็นมากกว่าการพนันรูบแบบอื่นที่อาศัยเพียงการวัดดวงเพราะกล่าวคือผู้เล่นที่ถือไพ่ที่อ่อนแอกว่าสามารถชนะในการเล่นรอบนั้นๆได้โดยอาศัยหลักจิตวิทยาในการหลอกคู่ต่อสู้ (ลักไก่-Bluff) ในทางตรงข้ามผู้เล่นที่ถือไพ่แข็งแกร่งอาจจะหมอบ(Flod)จากความกดดันในเกมนั้นๆก็เป็นได้
        ปัจจุบันมีผู้เล่นนิยมเล่นโป๊กเกอร์โดยเฉพาะระบบออนไลน์วันละหลายแสนคนเนื่องจากเป็นเกมที่เล่นง่ายใช้เงินลงทุนน้อยหรืออาจจะไม่ต้องใช้เลยจากโปรโมชั่นที่เว็บต่างจัดให้สำหรับนักเล่นหน้าใหม่หรือจากการเล่นฟรีทัวร์นาเม้นท์(Freeroll Tournament) มีจำนวนไม่น้อยที่พัฒนาฝีมือและใช้หลักความน่าจะเป็นในการบริหารความเสี่ยงจนเล่นเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียวซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วยหลายคน
        ในบทความนี้ ขอกำหนดคำย่อไว้ดังนี้ (เป็นคำย่อสากล ของผู้ที่ศึกษาและเล่นโป๊กเกอร์) A คือ Ace (เอซ) K คือ คิง Q คือ ควีน หรือ แหม่ม J คือ แจ๊ค T คือ สิบ และอันดับของไพ่ในโป๊กเกอร์จากมากไปหาน้อยจะเรียงได้จาก A K Q J T 9 8 7 6 5 4 3 2
High Pulse Poker
Free no deposit poker bonus at BankrollMob
        เกมโป๊กเกอร์มีมากมายหลายรูปแบบแต่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมี 2 ชนิดคือ โฮลด์เอ็ม(Hold’em)และโอมาฮ่า(Omaha)โอกาสหน้าจะแจกแจงรายละเอียดของโป๊กเกอร์ในรูปแบบต่างให้ทราบครับ
        สุดท้ายนี้ขอเรียนให้ทราบว่าบทความนี้ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาสนับสนุนให้เล่นการพนันแต่เพียงเพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่บางท่านอาจจะยังไม่ทราบเท่านั้น


2 พฤศจิกายน 2554

ประวัติของหีบเพลงปาก (HARMONICA)


     Harmonica หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่าเมาท์ออร์แกน ถูกคิดค้นโดย Buschmann Christian ในปี 1821 ในขณะที่เขามีวัยเพียง 16ปี ตอนแรกเขาเรียกเครื่องดนตรีใหม่นี้ว่า "Aura" หรือ "Mundaeoline"Handharmonika
     Buschmann อธิบายให้พี่ชายของเขาฟังว่า"เครื่องดนตรีชนิดใหม่ที่มีโดดเด่นอย่างแท้จริง. ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงสี่นิ้ว แต่ให้โน๊ตได้ถึง 21 ตัวโน๊ต
     หลังจากนั้นก็ถูกลอกเลียนแบบ และดัดแปลงไปอย่างแพร่หลายที่นำไปสู่การปรับเปลี่ยนจำนวนมาก จนกระทั่งถึงปี 1826 ช่างทำเครื่องดนตรี ชาวโบฮีเมียนที่มีชื่อริกเตอร์ ได้ทำพัฒนาให้มีจำนวนรู 10 และ 20 รู แยกกันระหว่างช่องดูดแลเป่า
     ในปี 1857, ประวัติศาสตร์ของHamonicaได้เปลี่ยนไปอีครั้งโดยช่างทำนาฬิกาชื่อ Matthias Hohner ได้หันไปผลิต Harmonica เต็มเวลาโดยความช่วยเหลือจากครอบครัวและคนงานของเขา

31 ตุลาคม 2554

พระองค์เจ้าไชยานุชิต

ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยทุกท่าน สู้ๆน่ะครับ ....


จากที่ข่าวน้ำท่วม หนาหูเหลือเกินทำให้ ผมได้ยินชื่อคลองชื่อหนึ่งเป็นประจำคือ "คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต" ทำให้เกิดความสงสัยว่าเจ้านายพระองค์นี้เป็นใคร ? จึงได้ลองหาข้อมูลดู โพสไว้เป็นความรู้เผื่อใครที่ยังไม่รู้ ได้ประดับความรู้เข้าตำรารู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหามครับ

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไชยานุชิต กรมหมื่นพงศาดิศรมหิป พระนามเดิม พระองค์เจ้าไชยานุชิต พระราชโอรสพระองค์ที่ ๕๕ ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาเที่ยงประสูติเมื่อวันอังคาร เดือน ๙ แรม ๖ ค่ำ ปีระกาตรีศก จ.ศ. ๑๒๒๓ (๒๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๐๔)

พระองค์เจ้าไชยานุชิต ทรงดำรงตำแหน่งเจ้ากรมพิพิธภัณฑ์พระองค์แรก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐ ภายหลังจากที่ยกฐานะเป็นกรมหนึ่งในกระทรวงธรรมการ ทรงรับราชการกรมชลประทาน ทรงอำนวยการขุดคลอง ตั้งแต่คลองสิบสี่ ถึงคลองยี่สิบเอ็ด ในจังหวัดฉะเชิงเทรา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นพงศาดิศรมหิป เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๑

พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าไชยานุชิต กรมหมื่นพงศาดิศรมหิป สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๘ เมื่อวันอังคาร ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีกุนสัปตศก จ.ศ. ๑๒๙๗ (๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๘) พระชันษา ๗๔ ปี พิธีพระราชทานเพลิงศพ ณ พระเมรุวัดเทพศิรินทราวาส เมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๙ ทรงเป็นต้นราชสกุล ชยางกูร


พระโอรส-ธิดา


หม่อมเอี่ยมหม่อมเจ้าสฤษดิเดช ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๒๔-๒๔๙๘) เษกสมรสกับหม่อมเนื่อง ณ นคร มีบุตรธิดา คือ
หม่อมราชวงศ์ทิพยวดี ชยางกูร สมรสกับหม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์
หม่อมหลวงถวัลยวดี เตวิทย์
ท่านผู้หญิงนราวดี ชัยเฉนียน
หม่อมราชวงศ์ศรีสฤษดิ์ ชยางกูร(สมรสกับหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์)
หม่อมราชวงศ์วิจิตรโฉม ชยางกูร สมรสกับหม่อมเจ้าขจรจบกิติคุณ กิติยากร
หม่อมราชวงศ์เกียรติคุณ กิติยากร (สมรสมรสกับ อาภัสรา หงสกุล)
หม่อมราชวงศ์สฤษดิคุณ กิติยากร(สมรสกับ หม่อมราชวงศ์เดือนเด่น สวัสดิวัตน์)
หม่อมราชวงศ์สุจิตคุณ ชยางกูร (ท่านผู้หญิงสุจิตคุณ สารสิน) (สมรสกับนายอาสา สารสิน)
หม่อมราชวงศ์โสมสมร ชยางกูร(สมรสกับ ม.ล. ชูชาติ กำภู)
หม่อมราชวงศ์พรพรรณ ชยางกูร (สมรสกับหม่อมทวีวงศ์ถวัลยศักดิ์ เมื่อ หม่อมราชวงศ์ทิพยวดี ชยางกูร ถึงแก่กรรม)
หม่อมเจ้าวิเศษศักดิ์ ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๒๙-๒๕๑๒)เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าเฉลียววรรณมาลา กมลาศม์
หม่อมราชวงศ์เลอชัย ชยางกูร สมรสกับชาวฟิลิปปินส์
หม่อมหลวงรัชฎาราศี ชยางกูร
หม่อมหลวงราศี ชยางกูร
หม่อมหลวงรูสบีมินดา ชยางกูร
ต่อมาเษกสมรสกับ หม่อมศิลา วสันตพฤกษ์
หม่อมบัวหม่อมเจ้าหญิงพักตรพิสุทธิ์ ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๓๔-๒๕๐๘)
หม่อมพร้อมหม่อมเจ้าหญิงผุดผ่องพรรณ ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๓๖-๒๕๐๗) เษกสมรส
หม่อมเจ้าหญิงฉันทวิเชียร ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๓๗-๒๔๕๖)
หม่อมเจ้าหญิงพิศเพี้ยนแขไข ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๔๐-๒๕๒๓) เษกสมรส
หม่อมละม้ายหม่อมเจ้าลักษณเลิศ ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๓๙-๒๕๑๘) เษกสมรสกับหม่อมน้อมสิริ (กิจจรูญ)
หม่อมราชวงศ์เลิศลักษณ์ ชยางกูร
หม่อมราชวงศ์เลิศลักษณา ชุติกุล สมรสกับนายพยงชุติกุล
นายกอบศักดิ์ ชุติกุล สมรสกับ หม่อมหลวงลักษสุภา กฤดากร
นางสาวอาภาสิริ ชุติกุล
นาย ถิระ ชุติกุล
นางสิริลักษณา คอมันตร์ สมรสกับ นายฐิระวุฒิ คอมันตร์
นางสาววสมน คอมันตร์
นางสาวปัฐมน คอมันตร์
นายสารกิต ชุติกุล สมรสกับ นางปราณี วัฒนานันท์
หม่อมเจ้าประเสริฐศรี ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๔๒-๒๕๓๔) เษกสมรสกับหม่อมเจริญ ชยางกูร
หม่อมเจ้าทวีผล ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๔๔-๒๔๙๓) เษกสมรสกับหม่อมฉะอ้อน ชยางกูร
หม่อมราชวงศ์อรรถวี ชยางกูร
หม่อมราชวงศ์ศุภชัย ชยางกูร
หม่อมราชวงศ์พงษ์พรรณ ชยางกูร
หม่อมเจ้ามงคลอุดม ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๔๖-๒๕๑๘) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าอุบลเกษร สุขสวัสดิ์
หม่อมราชวงศ์ไชยสุข ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๖๔-๒๕๕๑) สมรสกับ นางพิศพรรณ อารัมภีร (น้องสาวนายสง่า อารัมภีร ศิลปินแห่งชาติ)
หม่อมหลวงอภิชัย ชยางกูร สมรสกับ นางสุวรัตน์ ธีระวชิรานนท์
นายอภิรัตน์ ชยางกูร ณ อยุธยา
นายเฉลิมพร ชยางกูร ณ อยุธยา
นายวิกรม ชยางกูร ณ อยุธยา
หม่อมหลวงพรรณพิมล ชยางกูร สมรสกับ นายชัยยศ จินดาอุดมเศรษฐ์
หม่อมหลวงอุบลวดี ชยางกูร สมรสกับ นายทวีชัย เลิศอร่ามรัตน์
เด็กหญิงสิโรบล เลิศอร่ามรัตน์
พันโท หม่อมราชวงศ์ธงชัย ชยางกูร สมรสกับ นางกาญจนา ลิ้มวิไล
หม่อมหลวงทวีศักดิ์ ชยางกูร
หม่อมหลวงเรวดี ชยางกูร
เด็กชายกษิดิ์เดช ชุลีวัฒนกุล
หม่อมหลวงถวัลย์วดี ชยางกูร สมรสกับ พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์
นายวัฐากร สัมบุณณานนท์
หม่อมหลวงสุรัตวดี ชยางกูร
นางสาวกิติยาวดี อมาตยกุล
หม่อมหลวงธวัชชัย ชยางกูร
หม่อมหลวงจิราวดี ชยางกูร สมรสกับ นายวิวัฒน์ ผสมทรัพย์
นายวิจิร์ ผสมทรัพย์
เด็กหญิงวิจิรา ผสมทรัพย์
หม่อมหลวงสุทธิชัย ชยางกูร
หม่อมหลวงมนัสนันท์ ชยางกูร
หม่อมราชวงศ์ไชยมงคล ชยางกูร (ถึงแก่กรรม)
หม่อมถมหม่อมเจ้าหญิงประไพพงศ์ ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๕๐-๒๕๓๘) เษกสมรส
หม่อมเจ้าวงษ์มหิป ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๕๒-๒๕๓๐) เษกสมรสกับ หม่อมแมรี่ ชยางกูร
หม่อมราชวงศ์อรรควงษ์ เอกเซล ชยางกูร
หม่อมราชวงศ์พงษ์ชัย แพทริก ชยางกูร
และเษกสมรสอีกครั้งกับ หม่อมละไม ชยางกูร
หม่อมเจ้าหญิงทิพยลักษณสุดา ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๕๔-๒๕๓๒) เษกสมรส
หม่อมเจ้าหญิงโสภาเพียงจันทร์ ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๕๕-๒๕๒๔) เษกสมรสกับ หม่อมเจ้าอุรคินทร์ จันทรทัต มีธิดา 1 คน
หม่อมราชวงศ์พงษ์จันทร์ จันทรทัต สมรสกับ พันตำรวจโทโชติศักดิ์ ภาษีผล มีบุตรธิดา 2 คน
นายชยะพงษ์ ภาษีผล
ดร.ทัตดาว ภาษีผล
หม่อมเจ้าสรรพไชยา ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๕๗-๒๔๗๑)
หม่อมศรี บุญยมาลิกหม่อมเจ้าจุฬาไชย ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๖๒-๒๕๓๔) เษกสมรส
หม่อมเจ้าฤทัยเที่ยง ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๖๔-๒๕๐๘) เษกสมรส
หม่อมเจ้าวราชัย ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๗๐-ปัจจุบัน?) เษกสมรส
หม่อมแหวนศุลี บุญยมาลิกหม่อมเจ้าเวียงวัฒนา ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๖๗-ปัจจุบัน?) เษกสมรส ชมชื่น โกมารกุล ณ นคร
หม่อมเจ้าหญิงอุทัยเที่ยง ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๗๓-ปัจจุบัน?)
หม่อมเจ้าจรูญฤทธิเดช ชยางกูร (พ.ศ. ๒๔๗๕-ปัจจุบัน?) เษกสมรส


ขอบคุณที่มา http://th.wikipedia.org/